ถวายความจงรักภักดี... ศูนย์หม่อนไหมฯ สระบุรี เชิญ ปชช. รับโบว์ริบบิ้นดำฟรี!

 ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี 080-008-9625

วันที่ 28 ตุลาคม 2568  ที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สระบุรี นางชุติกาญจน์ รัชตะปิติ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สระบุรี พร้อมด้วยข้าราชการ ลูกจ้าง และกลุ่มจิตอาสาจากชุมชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมประดิษฐ์ "โบว์ริบบิ้นสีดำ" เพื่อเตรียมแจกจ่ายให้แก่ประชาชน สำหรับใช้ในการไว้ทุกข์ และถวายความจงรักภักดีแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นางชุติกาญจน์ รัชตะปิติ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างจังหวัดสระบุรี และกรมหม่อนไหม โดยศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สระบุรี เพื่อให้ราษฎรได้มีส่วนร่วมในการถวายความจงรักภักดี

"กิจกรรมจิตอาสานี้จัดขึ้นเพื่อให้ราษฎรได้ร่วมถวายความจงรักภักดีค่ะ" นางชุติกาญจน์ กล่าว "เพราะบางครั้งประชาชนอาจไม่มีชุดดำหรือเสื้อขาว ก็สามารถใช้วิธีนี้ในการน้อมใจภักดิ์ต่อแม่แห่งแผ่นดินและพระมารดาแห่งไหมไทยค่ะ"

สำหรับโบว์ริบบิ้นที่จัดทำขึ้นในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากจิตอาสาในชุมชนต่างๆ โดยจะนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

"โดยเรารวบรวมจิตอาสาด้วยความสมัครใจจากชุมชนแต่ละหมู่บ้านเข้ามาช่วยกันทำ และนำไปแจกฟรี ซึ่งประชาชนสามารถรับได้ที่สำนักงานศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสระบุรี เราจะแจกวันละ 93 ชิ้น ตามพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง"

ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราได้นำโบว์ส่วนหนึ่งไปแจกที่ประชุมกรมการจังหวัดแล้วเมื่อเช้าที่ผ่านมา (28 ต.ค.) และมีเป้าหมายจะแจกอีก 930 ชิ้น ที่วัดมงคลชัยพัฒนา โดยจะเริ่มแจกตั้งแต่ช่วงงานพระราชกุศล 7 วัน คือวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 7 พฤศจิกายน นี้"

"ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในละแวกใกล้เคียง สามารถติดต่อรับได้ที่สำนักงานศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสระบุรีได้ตลอด ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นะคะ เราคนไทยร่วมด้วยช่วยกัน ในห้วงเวลานี้ก็คือการถวายความจงรักภักดีด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกันค่ะ" นางชุติกาญจน์ กล่าวทิ้งท้าย

รับลมหนาว //UPDATE: เศรษฐกิจสระบุรี–มวกเหล็กคึกคักรับ ‘วันปล่อยเสือ ปี 5’ คาดเงินสะพัดทะลุ 800 ล้านบาท ดันท่องเที่ยว–ชุมชน–เศรษฐกิจฐานรากเติบโตจริง

  ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี 080-008-9625

เทศกาลดนตรีเชิงสร้างสรรค์และอนาคตไทยอย่าง “วันปล่อยเสือ ปี 5” ที่จัดขึ้นวันที่ 25–26 ตุลาคม 2568 ที่ค่ายลูกเสือภูริทัศ สระบุรี กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้เศรษฐกิจในพื้นที่ โดยมีผู้คาดการณ์ว่ามูลค่าเงินสะพัดอาจแตะ 800–1,000 ล้านบาท ภายใน 2 วันของการจัดงาน และต่อเนื่องสู่ก่อน–หลังเทศกาลอีกไม่ต่ำกว่า 14 วัน

ข้อมูลจากผู้ประกอบการในพื้นที่เผยว่า ยอดจองที่พักในมวกเหล็ก ปากช่อง วังน้ำเขียว และสระบุรี สูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่มีข่าวเตรียมจัดงาน เฉลี่ยการเข้าพักเพิ่มขึ้นถึง 240% โรงแรม–รีสอร์ตขนาดกลางถึงเล็กถูกจับจองเต็มแล้วกว่า 90% ก่อนงานเริ่มกว่า 3 เดือน ขณะที่โฮมสเตย์และที่พักท้องถิ่นถูกจองต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้หมุนเวียนเข้าสู่ชุมชนอย่างชัดเจน

นอกจากภาคท่องเที่ยวแล้ว “วันปล่อยเสือ 5” ยังเป็น เทศกาลที่เด่นด้านเศรษฐกิจชุมชน เพราะเปิดโอกาสให้ผู้ค้าในจังหวัด กว่า 1,000 ครัวเรือน เข้าร่วมขายสินค้า อาหารพื้นถิ่น และงานฝีมือในงาน พร้อมนำแนวคิด Eco-Friendly + Circular Economy มาใช้ ลดขยะกว่า 50 ตันต่อปี ด้วยระบบ ขยะแลกบัตร – ขยะแลกอัปเกรด – Bottle to Stage – Reuse Design

งานนี้ถูกจับตาในฐานะ “ต้นแบบเทศกาลระดับชาติที่สร้างได้ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และความสุข” และเปลี่ยนบทบาทจังหวัดสระบุรีให้กลายเป็น ศูนย์กลาง Music Tourism และ Creative Economy ของภาคกลาง อย่างเต็มตัว ปัจจุบัน “วันปล่อยเสือ ปี 5” ตั้งเป้าผู้ร่วมงาน 50,000–100,000 คน และพร้อมเปิดขายบัตรล็อตใหญ่เร็ว ๆ นี้ คาดว่าจะสร้างกระแสผู้คนเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง 5 จังหวัดรอบข้าง (นครราชสีมา – ลพบุรี – สิงห์บุรี – พระนครศรีอยุธยา – สระบุรี) ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และต่อยอดเป็น Soft Power ไทยที่ขับเคลื่อนได้จริง  จัดโดย เฮฟวี่ ออร์แกไนเซอร์

#วันปล่อยเสือ #MusicTourism #CreativeEconomy #EcoFriendlyFestival #SoftPowerThailand

#Heavy

พลังศรัทธาล้น! ชาววังม่วง 500 ชีวิตร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐาน "พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5" เพื่อเป็นที่สักการะและยึดเหนี่ยวจิตใจ

  ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี 080-008-9625

    วันนี้ (19 ตุลาคม 2568) ที่บริเวณมณฑลพิธีหน้าที่ว่าการอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความศรัทธาและความจงรักภักดี เมื่อประชาชนชาวอำเภอวังม่วงกว่า 500 คน พร้อมใจกันเข้าร่วม พิธีบวงสรวงและเจริญพระพุทธมนต์ประดิษฐาน “พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5” เพื่อเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในพื้นที่

   พิธีจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ โดยมี นายประกาศิต สาณะเสน นายอำเภอวังม่วง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางณัฐพร กมุทชาติ ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยอำเภอวังม่วง คณะข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจากทุกหมู่บ้านเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

   นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญและอดีตผู้บริหารจังหวัดสระบุรีเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก อาทินายวิเชียร พุฒิวิญญู อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี,นางอังคณา พุฒิวิญญู อดีตนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี,นายพลวรรธน์ เทียนชัยมงคล อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี,นางจณิตา เทียนชัยมงคล อดีตรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี,นายชินนาอาชว์ รสิอัครศักดิ์ นายอำเภอเสาไห้ ,นายสมบัติ อำ-นา-คะ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดสระบุรี และนาย มานะชัย สุนันตา. นายกอบต.วังม่วง

  นายประกาศิต สาณะเสน นายอำเภอวังม่วง เปิดเผยว่า การจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 แห่งนี้ มีเจตนารมณ์เพื่อเป็น “อนุสรณ์เฉลิมพระเกียรติ” และ “สิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ” ของประชาชนในพื้นที่ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของอำเภอวังม่วงที่เกิดจากพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชน

  พิธีเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า โดยผู้เข้าร่วมต่างแต่งกายด้วยชุดสุภาพโทนสีชมพู ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้ประกอบพิธีบวงสรวงตามแบบแผนประเพณีไทยโบราณ มีพราหมณ์ประกอบพิธีอัญเชิญเทพยดาอารักษ์และอ่านโองการบวงสรวง ก่อนที่ประธานในพิธีจะจุดธูปเทียนบูชาฤกษ์และถวายสักการะเครื่องพิธีพราหมณ์

    ต่อมาเป็นพิธีทางพระพุทธศาสนา โดยมีคณะสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์จากวัดต่าง ๆ รวม 10 รูป นำโดย พระครูเวชชภิบาล เจ้าคณะอำเภอวังม่วง ร่วมเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมประกอบพิธีเจิมเปิดและเบิกเนตรพระบรมราชานุสาวรีย์อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางบรรยากาศสงบ ศักดิ์สิทธิ์ และเปี่ยมด้วยศรัทธา

ในช่วงท้ายของพิธี นางรำจำนวน 59 คน ได้ร่วมรำบวงสรวงถวายสักการะอย่างอ่อนช้อย เพื่อแสดงความจงรักภักดี ก่อนที่ประธานในพิธีจะนำผู้มีเกียรติถวายจตุปัจจัยไทยธรรมและภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์

 นอกจากนี้ งานยังสะท้อนถึงพลังศรัทธาของชาวอำเภอวังม่วง โดยมีหลายหน่วยงานและภาคเอกชนร่วมสมทบทุนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ อาทิ มูลนิธิครูบาอริยชาติมนุษย์เพื่อสันติสุข, บริษัท น้ำตาลสระบุรี จำกัด, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิวส์ จำกัด และบริษัท เม้งเจริญวังม่วงวัสดุ จำกัด ซึ่งต่างร่วมแรงร่วมใจให้โครงการสำเร็จสมบูรณ์

    ภายในงานยังมีการจัดเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมรับประทานอย่างอบอุ่น ทั้งขนมจีน รถกาแฟสด ชาเย็น ไอศกรีม และนมฟรี สร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้กับผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก

ภาพรวมงานวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความจงรักภักดี ความร่วมแรงร่วมใจ และศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของชาวอำเภอวังม่วง ที่พร้อมสืบสานเจตนารมณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 5 ให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป