ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี
วันที่ 21 ส.ค.67
ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่ามี กลุ่มเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญ พื้นที่
อ.วิหารแดง จ. สระบุรี โดยกลุ่มเพื่อน
อาสาได้กำลังช่วยกันต่อเติมสร้างบ้านของอาสาพวกตนเองที่ทรุดโทรมมานาน กันอย่างภาคภูมิใจและไม่เหน็ดเหนื่อย ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 47/ 2 ม.
6 ต.
เจริญธรรม อ.วิหารแดง จ. สระบุรี พบ
กลุ่มอาสาสมัครร่วมกตัญญู ร่วม 10
นาย ที่กำลังช่วยกันต่อเติมสร้างบ้านใหม่
ที่ไม้มุงด้วยสังกะสีเก่า ๆ ฝาผนังข้างบ้านปิดด้วยแสลมสีเขียวรอบด้าน โดยหลังคาบ้านนั้นรั่วเป็นรูยากที่จะกันฝนได้
มีห้องน้ำแต่ไม่มีฝากั้น ต้องใช้ผ้าใบล้อม
โดยเฉพาะโถส้วม
ก็นั่งปลดทุกข์ไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมีโรคเกี่ยวกับข้อกระดูก
ต้องใช้วิธีเอาโต๊ะมาตัดกลางแล้วนั่งถ่าย เพื่อนฝูงจึงได้นำโถส้วมอย่างดีมาให้
เพื่อให้เจ้าของบ้านนั้งปลดทุกข์ได้อย่างสบาย
ซึ่งมองดูบ้านไม่น่าเป็นบ้านเป็นเพลิงหมาแหงนหลังหนึ่งก็ว่าได้
เป็นที่พักอาศัยนอนไปวันๆ ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ก็คือ นาย ประเสริฐ ทองอ่อน อายุ 54ปี และ นาง
สมศรี วรสิทธิ์ อายุ 54ปี 2สามีภรรยา
ซึ่งทั้งคู่นั้นเป็นอาสาสมัครร่วมกตัญญูประจำที่ อ.วิหารแดง สระบุรี โดยต่างช่วยกันต่อเติมสร้างบ้านอย่างสนุกสนาน
ไม่เหน็ดเหนื่อยในภาพของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
นาย วัชราพล รวมพล หัวหน้ามูลนิธิกตัญญูวิหารแดง
เล่าว่า วันนี้เรารวมตัวกันมาสร้างบ้านให้กับประชาชน
ซึ่งน้องเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิหนึ่ง มีความลำบาก ร่างกายป่วยเป็นหลายโรค
แต่เขาไม่ได้ร้องขอ พวกเราเข้ามาแล้วพบเห็นว่า การเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก
จะเรียกเป็นบ้านหรือเพลิงพักอาศัยก็ว่าได้ การอยู่การกินลำบากมาก ตนก็เลยตัดสินใจ
ชวนเพื่อนๆมาสร้างบ้านใหม่ พร้อมบอกเขาว่า ขอสร้างเท่าที่เราจะช่วยได้
วันนี้จึงได้นำทีมงานที่เป็นช่าง พร้อมอุปกรณ์ มาช่วยกันสร้าง เป็นบ้านชั้นเดียว
ขนาด 8x6 เมตร มีห้องน้ำ ทำชักโครกใหม่อย่างดี เพื่อให้การเป็นอยู่ที่ดี
ถูกสุขลักษณะที่ดี ตนก็รู้สึกดีใจ ที่วันนี้เป็นวันดี ได้รวมพลมาช่วยกันสร้าง
ส่วนลูกข่ายเป็นคนที่นิสัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น
ตนร้องขอไปไม่ว่าจะเป็นที่ใด
เขาก็ไม่ปฏิเสธ ไปช่วยเหลือชาวบ้านทุกเคส ไม่ว่าจะช่วยสร้างบ้านให้กับผู้ป่วย
ช่วยเหลือน้ำท่วมหรือการจราจรทั่วไป แต่ไม่เคยบอกว่าตัวเองมาความเดือดร้อนและลำบาก
พอตนมาพบเห็นว่าเขาลำบาก ก็รู้สึกอยากช่วยเขาบ้าง ซึ่งเป็นเวลานาน 10กว่าปีแล้ว
ที่เขาไม่ได้บอกว่าลำบาก ส่วนเรื่องอุปกรณ์ตนขอขอบคุณกัลยานิมิต
ได้ช่วยสนับสนุนปูนคอนกรีตเทพื้น พร้อมมอบปูน อิฐมวลเบา เหล็ก ให้กับพวกเรา
ส่วนอย่างอื่นเราก็ระดมช่วยกันหาในกลุ่มพี่น้องสายบุญ
ในวันนี้เราจะสร้างให้ได้มากที่สุด และจะสร้างให้เสร็จ
เป็นหนึ่งหลังและทาสีให้พร้อมเข้าอยู่เลย
ทางด้าน น.ส.สมศรี วรสิทธิ์ อายุ 54 ปี และ นาย ประเสริฐ ทองอ่อน อายุ 54 ปี
เล่าให้ฟังว่า สภาพของตนทรุดโทรมมาก แต่ไม่เคยมีใครรับรู้
เราเป็นอาสากู้ภัยร่วมกตัญญูมาเกือบ 10 ปี ไม่เคยบอก
ไม่เคยร้องขอกับหัวหน้าและลูกพี่ ซึ่งพอดีมีหัวหน้าชุดเขาเข้ามาเห็น เขาก็บอกว่า
คนอื่นยังทำให้ได้ ทำไมบ้านลูกน้องจะทำให้ไม่ได้
เขาจึงได้รวมพลเฉพาะกลุ่มของเรามาช่วยกัน ตนเองไม่เคยบอกใครเลย ถ้ามีงานทำก็ไป แต่ถ้าไม่มีก็อดอยู่แบบนี้ ครอบครัวตนเองมีโรคประจำตัวกันหมด
ตนนั้นเป็นโรคหมอนรองกระดูกไขสันหลังทับเส้นประสาม เคยผ่าตัดมาแล้ว 2 ครั้ง
และกระดูกต้นคอไม่ดี เสื่อมสภาพ หมอต้องผ่าตัดอีก ต้องใส่กระดูกเทียมถึง 5 ข้อ
ข้อละ 1 หมื่นบาท แล้วจะต้องไปผ่าตัดที่กรุงเทพ แต่ตนไม่มีเงิน ก็เลยไม่ได้ไป
รักษาตามอาการเอา ส่วนแฟนเป็นโรคธารัสซีเมีย และหลานชายเป็นโรคภูมิแพ้
และโรคต่อมอะตินอยโต เคยไปผ่าตัดมาแล้ว


ส่วนหลังคาบ้านตน
คลุมอะไรไม่ได้เลย ถ้าฝนตกทีก็ทั้งสาดทั้งรั่ว เวลาฝนตกก็ใช้ผ้ายางขึงคลุมเอา
ตรงไหนรั่วก็หาอะไรไปรอง ตนเองไม่เคยเสียใจและท้อกับการลำบากเลย
เพราะตั้งใจคิดว่าต้องช่วยคนอื่นก่อน ซึ่งเรามุ่งมั่นว่าเรารักงานตรงนี้
ต้องไปช่วยตรงนี้ก่อน โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น แล้วก็ไม่มีเงินเดือนด้วย
คอยทำงานรับจ้างทั่วไป ส่วนภาพห้องน้ำ เป็นโถส้วมนั่งยองๆธรรมดา
แต่พอผ่าตัดมาเราก็ใช้เป็นเก้าอี้ดัดแปลง ตัดเป็นบล็อก 4 เหลี่ยม ทำเป็นชักโครกแทน หนำซ้ำห้องน้ำยังใช้ผ้าใบกั้นไว้เฉยๆ
ยังไม่ได้ทำประตู เวลาจะเข้าก็บอกแค่ว่า เข้าห้องน้ำ ก็จะไม่มีใครเดินไป

ตนเองดีใจมาก
ตื้นตันจนน้ำตาไหล พูดอะไรไม่ออกเลย อยากขอบคุณหัวหน้าชุดและอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูทุกคนที่มีจิตใจเมตตาต่อครอบครัวตน
ขอบคุณหลายๆเลย ที่มีความเมตตามาช่วยทำบ้านที่อยู่อาศัยให้ดีกว่านี้
ถึงจะไม่ได้เท่าที่ควร แต่ก็ขอให้อยู่ได้ ขอให้กันแดดกันฝนได้ก็พอแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ยังมาช่วยเราไม่ลำบาก
ในเรื่องเวลาการกินอยู่ เวลาเข้าห้องน้ำ และเวลาฝนตกฟ้าร้อง ก็จะได้ไม่มีฝนรั่ว
ฝนสาด ส่วนที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินหัวไร่ปลายนา เขาให้อยู่ได้ แต่ห้ามซื้อขาย
ตนเองดีใจมากที่เขาให้อยู่ฟรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น