ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร ผู้สื่อข่าวททบ.5 เสียงมหาชนออนไลน์ สระบุรี 080-008-9625
วันที่ 15 ตุลาคม 25567 ที่วัดพระพุทธฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี นาย
ดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พระมหาสินชัย
ธัมมะโชโตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย นาง วรรณทิตย์ กิจดี
นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษรักษาราชการแทนวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี นายธนกฤต
อัตถสัมปุณนะรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรีและนาย อรรถการณ์ กิจถวิล
นายอำเภอเมืองสระบุรีร่วมแถลงข่าว
จัดงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะมหัศจรรย์ข้าวต้มลูกโยน(ข้าวต้มหาง)หนึ่งเดียวในโลก
จำลองเหตุการณ์ ตักบาตรเทโว รอรับเสด็จพระพุทธเจ้าในการลงมาจากการจำพรรษาในเทวโลก
ชั้นดาวดึงส์ เป็นประเพณีเก่าแก่ในอดีต "ข้าวต้มลูกโยน"หรือ"
ข้าวต้มหาง"ที่ทำมาจากข้าวเหนียวผัดกับกะทิและถั่วดำ
ห่อด้วยใบเตยหรือใบมะพร้าวให้มีใบเหลืองไว้เป็นหางยาว
ใส่ลงไปในบาตรของพระสงฆ์มากกว่า100 รูป
ที่เดินต่อแถวเรียงรายลงมาจากบันไดสวรรค์ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าการตักบาตรข้าวต้มลูกโยนนี้จะเป็นการรอรับเสด็จพระพุทธเจ้าในการลงมาจากจำพรรษาในเทวโลกชั้นดาวดึงส์พร้อมด้วยเหล่านางฟ้านางสวรรค์และเทวดาประชาชนมากมายจึงปรารถนาที่จะใส่บาตรพระพุทธองค์ด้วยอาหารต่างๆบางคนที่อยู่ไม่ถึงต้องใช้วิธีโยนอาหารใส่บาตรกลายเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนทำสืบต่อกันมามากกว่า
10 ปี นาย ดุรงธ์ฤทธิ์ ศิริวัฒนาพันธุ์ รองผู้ว่าสระบุรีกล่าวว่า งานนี้กำหนดจัดในวันที่ 17-19 ตุลาคม 2567 ณ
วัดพระพุทธฉาย
การจัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่คู่จังหวัดสระบุรี
และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
เพื่อสืบสานวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน
ที่สำคัญเป็นการส่งเสริมการทองเที่ยวของจังหวัดตามนโยบายของนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
ที่ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวในทุกด้านเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้
พระมหาสินชัย ธัมมะโชโต กล่าวว่า งานนี้ต้องการปลูกฝังความรัก
ความกตัญญูต่อพ่อแม่ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างที่พระองค์เสด็จจำพรรษาในเทวโลกชั้นดาวดึงส์
แสดงพระอภิธรรมปิฎก เพื่อตอบแทนคุณของพุทธมารดา ตามตำนานกล่าวว่า
เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระชนมายุอยู่นั้น ทรงเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
และกลับมายังมนุษย์โลกที่เมืองสังกัสคีรี ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11
ประชาชนต่างมารอเฝ้ารับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันนั้น
ได้กล่าวว่าเป็นวันเปิดโลก ทำให้โลกมนุษย์
สวรรค์และนรกต่างเห็นกันและกันประชาชนที่มาจำนวนมากที่มาเฝ้ารอเสด็จต่าง
ปรารถนาใส่บาตรพระพุทธองค์ โดยประชาชนที่อยู่ห่างออกไปไม่สามารถจะใส่บาตรได้ถึง
จึงใช้วิธีการโยนอาหารของตนลงในบาตรของพระพุทธเจ้า และพระสาวก
โดยอาหารเหล่านั้นตกลงในบาตรเป็นที่อัศจรรย์
นางวรรณทิตย์
กิจดี ผู้วัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า ไฮไลต์ภายในงาน
ทุกท่านจะได้ชมขบวนแห่ข้าวต้มลูกโยน
และขบวนการแสดงขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม
และชมกรรำวงในบทเพลงรำวงสระบุรีที่ใช้คนมากที่สุด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
การตักบาตรข้ามต้มลูกโยนซึ่งมีการจำลองการเสด็จลงมาจากสวรรค์ขององค์สัมมาสัมมาพุทธเจ้า
เสด็จลงมาจากชั้นดาวดึงส์เพื่อลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อโปรดสัตว์
และมนุษย์โลกโดยมีนางฟ้า นางสวรรค์ เทวดาเสด็จร่วมขบวน
โดยในระหว่างขบวนแห่มีชาวบ้านรอใส่บาตรด้วยข้าวต้มลูกโยน ข้าวสาร อาหารแห้ง
ผลไม้แก่พระภิกษุ สามเณร ข้าวต้มลูกโยนนั้น วิธีการทำอาจคล้ายคลึงกัน
แต่การใช้ใบไม้มีหลายชนิดที่นำมาห่อ
ส่วนใหญ่จะใช้ใบเตยซึ่งเมื่อนำไปนึ่งก็จะมีกลิ่นหอม
และเมื่อสุกแล้วแกะออกจะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ ทำให้น่ารับประทาน
และสามารถเก็บได้นานกว่า 3 วัน ในอุณหภูมิปกติ
อีกทั้งการทำข้าวต้มลูกโยนยังถ่ายทอดความสามัคคี
ความร่วมมือร่วมใจในการรักษาประเพณีของชุมชน การทำข้าวต้มลูกโยนหรือข้าวต้มหาง
จะนิยมทำขึ้นในวันออกพรรษาประเพณีนี้ชาวบ้านปฏิบัติสืบสานมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งเป็นประเพณีเก่าแก่ของที่นี่
ซึ่งทุกบ้านจะทำข้าวต้มลูกโยนเพื่อนำไปทำบุญตักบาตรเทโวฯ สำหรับท่านที่จะมาร่วมงานสามารถหาซื้อข้าวต้มลูกโยนได้ภายในวัดโดยทางกลุ่มแม่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่จะนำมาจำหน่าย
ด้านนายธนกฤต อัตถสัมปุณนะ รองนายก อบจ.สระบุรี กล่าวว่า งานนี้นายสัญญา บุญหลง นายก อบจ.สระบุรี ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดงาน ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด
นายอรรถการณ์ จิตถวิล นายอำเภอเมืองสระบุรี กล่าวว่า การจัดขบวนแห่ได้เตรียมการแสดงสุดยิ่งใหญ่หลายขบวน ขบวนนางรำกว่าพันชีวิต ขบวนชาติพันธุ์ การแสดงศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดสระบุรี ในปีนี้ได้มีการตัดเตรียมไว้อย่างยิ่งใหญ่สุดอลังการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น