ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี
วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเวทีประชุมปฐมนิเทศโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 1) เพื่อชี้แจงรายละเอียดและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (ด้านตะวันออก) ตอนแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 32 - บรรจบทางหลวงหมายเลข 305 ส่วนที่ 2
การประชุมจัดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 – 12.00 น. ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวปัญชลีย์ ไชยจิราเกียรติ ปลัดอาวุโสอำเภอหนองแค เป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกรมทางหลวง หน่วยงานราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
ในโอกาสนี้ นายเปรมวุฒิ จันทร์ธนวงษ์ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง ได้เป็นผู้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ พร้อมนำเสนอภาพรวมแนวเส้นทาง ขอบเขตพื้นที่ศึกษา และแผนดำเนินงานในระยะต่าง ๆ โดยเน้นให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในทุกขั้นตอน
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายใหม่นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทางเลือกในการเดินทางระหว่างภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยไม่ต้องผ่านเขตเมืองชั้นในของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรแออัด เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง และส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทาง
ทั้งนี้ ปัจจุบันถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 2 หรือถนนกาญจนาภิเษก มีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนใกล้ถึงขีดความสามารถในการรองรับการจราจร โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนและเส้นทางขนส่งสินค้า โครงการวงแหวนรอบนอกฯ รอบที่ 3 ด้านตะวันออก จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่จะช่วยลดภาระของโครงข่ายเดิม
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการจาก กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย
• บริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด (หัวหน้ากลุ่ม)
• บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนส์ จำกัด
• บริษัท เอ็นทิช จำกัด
โดยทำหน้าที่ในการศึกษา สำรวจ และออกแบบรายละเอียดของโครงการให้ครบถ้วน ทั้งในด้านวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และสังคม พร้อมทั้งจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามมาตรฐานและข้อกำหนดของภาครัฐ
ในเวทีวันนี้ ได้มีการเปิดรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชน ผู้นำชุมชน และผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ โดยกรมทางหลวงให้ความมั่นใจว่า ความเห็นทั้งหมดจะถูกนำไปพิจารณาประกอบในการศึกษาความเหมาะสม เพื่อให้โครงการมีความโปร่งใส มีส่วนร่วม และตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง
นายเปรมวุฒิ จันทร์ธนวงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า “กรมทางหลวงให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมที่สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของประเทศในระยะยาว พร้อมทั้งคำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน”
โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันออก นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งสู่อนาคต เพิ่มความคล่องตัวในการเดินทาง และผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น