ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี
วันที่ 6 - 7 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมลีลาวดีวิลล่า ลีลาวดีรีสอร์ท จังหวัดสระบุรี สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) เขต 3, 4 และ 13 จัดประชุม “สานพลังไทย รับมือสังคมสูงวัยไปด้วยกัน” ระหว่างวันที่ 6-7 มีนาคม 2568 เพื่อระดมความคิดเห็นและขับเคลื่อนนโยบายรองรับสังคมสูงวัยที่กำลังจะกลายเป็นโครงสร้างหลักของประชากรไทย
นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างระบบรองรับผู้สูงวัยอย่างเป็นระบบ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ขณะที่นายแพทย์พรพัฒน์ ภูนากลม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี กล่าวต้อนรับและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้สูงวัยในประเทศไทย ซึ่งกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสมบูรณ์ (Super-Aged Society) ทำให้การบริหารจัดการด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ
ในการประชุม มีการปาฐกถาพิเศษโดยนายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ ประธานกรรมการบริหารโครงการ “สานพลังขับเคลื่อนนโยบายรองรับสังคมสูงวัยเพื่อสุขภาวะองค์รวม” ซึ่งกล่าวถึงแนวทางการพัฒนาสังคมสูงวัยแบบองค์รวม โดยมุ่งเน้นการบูรณาการด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และการมีส่วนร่วมของสังคม เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและเป็นพลังสำคัญของประเทศ
ภายในงานมีการนำเสนอกรณีศึกษาจาก 4 พื้นที่ต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการดูแลผู้สูงวัย ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้รองรับสังคมสูงวัยตำบลวัดขวาง จังหวัดพิจิตร, ธรรมนูญตำบลหนองยาว จังหวัดนครสวรรค์, โครงการพัฒนาเกษตรกรสูงวัยสู่ผู้ประกอบการเชิงเกษตร จังหวัดอ่างทอง และโครงการ “ยังเก๋า เชื่อมใจระหว่างวัย” เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
ซึ่งแต่ละพื้นที่ได้พัฒนาแนวทางที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระดับประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีการประชุมกลุ่มระดมสมองเพื่อกำหนดแนวทางขับเคลื่อน “นโยบาย 5X5 ฝ่าวิกฤติประชากรสูงวัย” ซึ่งประกอบด้วย 5 มิติหลัก ได้แก่ สุขภาพ เศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม เทคโนโลยี และความร่วมมือของสังคม โดยข้อเสนอแนะจากการประชุมจะถูกนำไปขยายผลและพัฒนาเป็นแผนปฏิบัติการระดับชาติ
การประชุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า การเตรียมพร้อมรับมือสังคมสูงวัยไม่ใช่เรื่องของอนาคต แต่เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการตั้งแต่วันนี้ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างระบบสนับสนุนที่ช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี และยังคงเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อสังคมไทยต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น