วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

เปิดแล้ว! มิติใหม่แห่งศรัทธา "ตักบาตรดอกเข้าพรรษา" สระบุรี ประเพณีโบราณหนึ่งเดียวในโลก

  ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี


วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 จังหวัดสระบุรีเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่กับงานประเพณี "ตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน ประจำปี 2568" ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "หนึ่งเดียวในโลก" ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท โดยมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงสื่อมวลชนจากทั่วสารทิศเข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่น เพื่อสืบสานประเพณีอันเก่าแก่ที่สืบทอดมายาวนานตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม



พิธีเริ่มต้นขึ้นในเวลา 16.30 น. ด้วยขบวนพยุหยาตราที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ตามมาด้วยขบวนเจ้าเมืองสระบุรี, ขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน, ขบวนรถบุปผชาติที่ประดับประดาอย่างงดงาม และขบวนที่แสดงออกถึงขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวสระบุรี ขบวนทั้งหมดเคลื่อนผ่านถนนสายคู่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร มุ่งหน้าสู่ถนนลานธรรมจักร และสิ้นสุดที่มณฑปรอยพระพุทธบาท ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เฝ้ารอชมและเก็บภาพความประทับใจของขบวนแห่ที่หาชมได้ยากนี้



ในเวลา 19.00 น. ได้เข้าสู่พิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยนายมนัสพันธ์ ดอนก้อนไพร นายอำเภอพระพุทธบาท ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน จากนั้น นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงานตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน ประจำปี 2568 พร้อมนำพุทธศาสนิกชนร่วมกันตักบาตรด้วย "ดอกเข้าพรรษา" ซึ่งมีความเชื่อว่าพระสงฆ์จะนำดอกไม้เหล่านี้ไปบูชารอยพระพุทธบาท นอกจากนี้ ยังมีพิธีล้างเท้าพระเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต



ถือเป็นอีกหนึ่งประเพณีสำคัญที่ชาวสระบุรีภาคภูมิใจและเชิญชวนให้ทุกคนได้มาสัมผัสประสบการณ์อันเป็นมงคลนี้สักครั้งในชีวิตความมหัศจรรย์ของ "ดอกเข้าพรรษา": สัญลักษณ์แห่งศรัทธา หลังจากที่พระภิกษุสงฆ์เดินรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนแล้ว ดอกเข้าพรรษาจะถูกนำไปสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งมีความเชื่อกันว่าการทำบุญตักบาตรด้วยดอกไม้นี้จะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญได้ขึ้นสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์



"ดอกเข้าพรรษา" เป็นดอกไม้หายากที่จะออกดอกเพียงปีละครั้งในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเท่านั้น โดยเฉพาะในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ชาวอำเภอพระพุทธบาทจะพากันไปเก็บดอกเข้าพรรษาตามไหล่เขาโพธิลังกา (เขาสุวรรณบรรพต), เทือกเขาวง และเขาพุ ในเขตอำเภอพระพุทธบาท เพื่อนำมาจัดรวมกับธูปเทียนสำหรับใส่บาตรถวายพระ



ดอกเข้าพรรษาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการมาเยือนของวันเข้าพรรษา และเป็นหัวใจสำคัญของประเพณี "ตักบาตรดอกเข้าพรรษา" ซึ่งชาวอำเภอพระพุทธบาทเชื่อมั่นว่าการได้ร่วมทำบุญตักบาตรดอกเข้าพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อันเป็นสถานที่ประดิษฐาน "รอยพระพุทธบาท" จะนำมาซึ่งบุญกุศลอันยิ่งใหญ่



ปัจจุบัน ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาได้รับการรู้จักและยอมรับในวงกว้างมากขึ้น ดึงดูดนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนจากต่างถิ่นให้มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ทำให้จังหวัดสระบุรีกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา



ดอกเข้าพรรษาตามความเชื่อทางพุทธศาสนามี 3 สี ได้แก่ สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์แห่งพระพุทธศาสนา, สีเหลือง หมายถึง สีแห่งพระสงฆ์ และ สีม่วง ซึ่งเป็นสีที่หายากที่สุด ชาวอำเภอพระพุทธบาทเชื่อกันว่าการใส่บาตรด้วยดอกสีม่วงจะได้รับบุญกุศลแรงกล้าที่สุด นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีโอกาสร่วมพิธีล้างเท้าพระเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ประจำปี 2568 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2568 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร โดยในวันที่ 10-11 กรกฎาคม จะมีพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและล้างเท้าพระวันละ 2 รอบ คือเวลา 09.00 น. และ 15.00 น.



ภายในงานยังจัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ นิทรรศการดอกเข้าพรรษา, การแสดงของดีของเด่นและแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี, การแสดงวัฒนธรรมพื้นถิ่น, การแสดงสินค้า OTOP และอื่นๆ อีกมากมาย จังหวัดสระบุรีจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านร่วมส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันสำคัญยิ่งนี้ ซึ่งเป็น "ประเพณีหนึ่งเดียวในไทย ใหญ่ที่สุดในโลก" ให้คงอยู่สืบไป












































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรงเรียนหรเทพ (รุ่งเรืองประชาสามัคคี) จัดโครงการสืบสานประเพณีไหว้ครูและครอบครูดนตรีไทย–นาฏศิลป์ไทย สะท้อนรากเหง้าวัฒนธรรมไทย

   ภาพ-ข่าว : จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี  เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 เวลา 07.30 น. โรงเรียนหรเทพ (รุ่งเรืองประชาสามัคคี) สังกัดองค์การบริหา...