ภาพ-ข่าว: จันทร์เพ็ญ พิมมะศร สระบุรี
วันนี้ (26 กรกฎาคม 2568) ที่โรงพยาบาลสระบุรี มีการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตครั้งใหญ่ โดยความร่วมมือกับเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือทหารหาญและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งเสริมปริมาณโลหิตสำรองสำหรับความต้องการภายในจังหวัดเอง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างล้นหลาม
นางภาวิณี เอี่ยมจันทน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (25 กรกฎาคม 2568) มีผู้มาบริจาคโลหิตกว่า 300 คน และได้รับโลหิตไปประมาณ 200 ถุง
ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการรวมพลังน้ำใจ สำหรับวันนี้ โรงพยาบาลยังคงเปิดรับบริจาคต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 20.00 น. และคาดว่าจะมีประชาชนทยอยมาบริจาคตลอดทั้งวัน นางภาวิณีกล่าวว่า "วันนี้ทางโรงพยาบาลจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เพื่อทหารหาญและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดที่เขตชายแดน เมื่อวานนี้มีผู้ประสงค์มาบริจาคประมาณสามร้อยกว่าท่าน ได้เลือดประมาณสองร้อยถุง และวันนี้เราเริ่มให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึงสองทุ่ม ก็คาดว่าจะมีประชาชนทยอยมาบริจาคเรื่อย ๆ วันนี้ก็อย่างที่เห็น"เธอยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตและเชิญชวนประชาชนว่า "ก็จะเปิดรับบริจาคไปจนถึงวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม
ก็อยากเชิญชวนประชาชนชาวสระบุรีและชาวจังหวัดใกล้เคียง ได้เข้ามาร่วมบริจาคเลือด ซึ่งนอกจากการบริจาคเพื่อทหารหาญและประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว ชาวสระบุรีเองก็ยังมีความต้องการใช้เลือดสำหรับการผ่าตัด ซึ่งทุกวันนี้เลือดที่เราได้จะตกประมาณเดือนละประมาณ 1,200 ถุง แต่ว่าจริง ๆ ความต้องการเราอยู่ที่ประมาณ 1,500 ถุง" พร้อมอธิบายถึงการบริหารจัดการหากได้รับบริจาคเกินความต้องการในระยะสั้นว่า "แต่ว่ายังไงก็ตาม ช่วงนี้เนื่องจากมีผู้มาบริจาคเลือดเป็นจำนวนมาก
แต่ว่าอย่างที่ทราบว่าเลือดจะมีอายุประมาณ 30 ถึง 45 วัน ดังนั้นในช่วงหลังจากนี้ ถ้าเรามีความต้องการที่ส่งไปแล้วเพียงพอแล้ว เราอาจจะขออนุญาตให้คิวไว้ ให้ท่านมาลงคิวไว้ แล้วก็พอความต้องการเริ่มลดลง เราก็จะแจ้งข่าวท่านว่าให้ท่านทยอยมาบริจาค"ด้าน นางจิตตินันท์ เชาวรินทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี ได้กล่าวขอรับบริจาคโลหิตพร้อมเผยความตั้งใจว่า "กิจกรรมที่เราทำในวันนี้ก็เพื่อเป็นการรับบริจาคโลหิต สำหรับสำรองไว้ใช้คงคลังทั้งที่ของจังหวัดสระบุรีเองซึ่งเรามีความขาดแคลน และอีกส่วนหนึ่งเราทุกคนเป็นคนไทย เราก็จะช่วยเหลือประเทศชาติของเรา
ดังนั้น ถ้ามีส่วนหนึ่งเราก็จะไปช่วยสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือปัญหาของทางด้านชายแดนไทย-เขมรของเรา ทั้งทหารหรือผู้ประสบภัย ผู้ประสบเหตุที่จังหวัดตรงนั้น แระแวกตรงนั้น รวมถึงใช้เอาไว้ใช้ในกิจการของโรงพยาบาลของเรา ก็ต้องขอขอบคุณทุกคน ทุกกำลังใจที่มาให้ความช่วยเหลือเราในวันนี้ มาแบบล้นหลามมาก บางคนมาแล้วสามวันเพื่อจะรอนบริจาค ต้องขอขอบคุณประชาชนชาวสระบุรีทุกคนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขอบคุณมาก"
ในทำนองเดียวกัน นางวนิดา ศรีเม่น กำนันตำบลม่วงงาม อำเภอเสาไห้ ก็ได้มาร่วมบริจาคโลหิตในวันนี้ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า โดยกล่าวว่า "วันนี้ เรามาบริจาคเลือด เรามีความตั้งใจมาก ตอนนี้ทางเหตุการณ์บ้านเมืองของเรา ถือว่าไม่ปกติ มีเกิดภัยสงครามเกิดขึ้น สิ่งหนึ่งในการทำสงครามครั้งนี้ก็คือการ อาจจะมีการเสียเลือดเสียเนื้อ เราเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่เราพอจะช่วยได้ เราได้ทราบข่าวจากจังหวัดสระบุรีแล้วก็จากอำเภอเสาไห้ ว่าต้องการสต็อกเลือด ช่วยให้กับทหารก็ดี หรือประชาชนที่ได้รับภัยในครั้งนี้ก็ดี
เราก็เลยมีความรู้สึกว่าเราตั้งใจมากในสิ่งที่เราพอที่จะช่วยได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องนี้เราถือว่ามันเป็นการช่วยชีวิตของคนไทยคนหนึ่ง ก็ตั้งใจมากมาก เลยมาวันนี้"
กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เติมเต็มคลังโลหิตที่จำเป็น แต่ยังเป็นการแสดงพลังแห่งความสามัคคีและน้ำใจของชาวสระบุรี ที่พร้อมยืนเคียงข้างเพื่อนร่วมชาติในยามวิกฤต และเป็นแบบอย่างที่ดีของการช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น